วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Lettuce : วิธีปลูกผักกาดหอมหรือผักสลัด



การปลูกผักกาดหอมหรือผักสลัด  เป็นผักที่ปลูกค่อนข้างยากเนื่องจากเป็นพืชที่จำเป็นต้องการสารเคมีเป็นจำนวนมาก ต้องดูแลเอาใจใส่ และเนื่องจากผักกาดหอมเป็นผักประเภทลำต้นเตี้ย ทำใบยอดของผักกาดหอมติดกับพื้นดิน จึงง่ายต่อแมลงศัตรูและโรค การปลูกผักกาดหอมหรือผักสลัด  เป็นผักที่สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ แต่จะปลูกได้ดีในดินร่วน และเป็นพืชที่ชอบแดดจัด 
ขั้นตอนการปลูกผักกาดหอมหรือผักสลัด
1. การเตรียมดิน  การปลูกผักกาดหอมหรือผักสลัด  สามารถปลูกได้หลายแบบ นิยมปลูกในถุงดินก็ได้ หรือ ปลูกในถาดหลุมก็ได้แล้วแต่จะสะดวก จากนั้นนำดิน ปุ๋ยคอกและขุยมะพร้าว ผสมกันในอัตรา1:1  จากนั้นรดน้ำให้ชุ่มแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วทิ้งไว้ในที่ร่มเป็นเวลา 7 วัน
2. นำปุ๋ยที่ผสมแล้ว มาใส่ในดินหรือถาดหลุม ให้เต็มแล้วใช้ไม้จิ้มลงกลางหลุมแล้วหยอดเมล็ด ผักกาดหอมลงไป1-2เมล็ด แล้วกลบด้วยดินหรือวัสดุบางๆ  จากนั้นรดน้ำแล้วนำไปไว้ในที่ร่มรำไร
3. การรดน้ำ ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ วันละ2ครั้ง เช้าและเย็น
4. เมล็ดผักกาดหอมจะงอกหลังจากหยอดเมล็ดประมาณ 3-5วัน 
5. เมื่อครบ7วัน  หรือมีใบ3-5ใบ จากนั้นนำถุงดินไปวางที่แดด เพราะผักกาดหอมเป็นพืชที่ชอบแดด 
6. เมื่อครบ 40-45 ก็สามารถนำมาจำหน่าย หรือ รับประทานได้เลย *คำแนะนำควรรีบตัดผักกาดหอมอย่าปล่อยให้แก่เพราะจะทำให้แข็งและขมไม่น่ารับประทาน
การดูแลรักษาผักกาดหอม
ผักกาดหอมเป็นผักรากตื้น ดังนั้นการให้น้ำจึงควรให้อย่างสม่ำเสมอและเพียงพอ โดยระยะเวลา 2สัปดาห์แรกควรรดน้ำทุกวันเช้า-เย็น โดยพ่นน้ำเป็นละอองเล็กๆเพื่อไม่ให้น้ำชุ่มแฉะมากเกินไป ข้อควรระวังคือไม่ควรรดน้ำไปถูกหัวผักกาดหอมเพราะอาจจะทำให้เน่าได้ ส่วนการใส่ปุ๋ยผักกาดหอม ผักกาดหอมจะใส่ปุ๋ยครั้งเดียวตอนเตรียมดินเท่านั้น 


การเก็บเกี่ยวผักกาดหอม 
ผักกาดหอมจะเก็บเกี่ยวได้หลังจากปลูกได้ประมาณ 40-45วัน ควรตัดทันทีเพราะถ้าผักกาดหอมแก่จะทำให้มีความเหนียวกระด้าง และมีรสชาติขม ไม่น่ารับประทาน และราคายังตกอีกด้วย วิธีตัดผักกาดหอมก็ง่ายๆ โดยใช้มีดตัดตรงโคน แล้วนำไปชุบน้ำเพื่อล้างน้ำยางออก มัดรวมเป็นมัดๆและจัดจำน่ายต่อไป 
ผักกาดหอมหรือผักสลัด  เป็นผักที่คนไทยนิยมรับประทานกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากผักกาดหอมเป็นผักที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นช่วยการขับถ่าย ล้างพิษ หรือช่วยทำให้นอนกลับง่ายขึ้น และยังนิยมมาตกแต่งบนจานอาหารเพื่อความสวยงาม และยังนิยมนำมารับประมาณเป็นสลัดเนื่องจากมีคุณค่าโภชนาการสูง ประกอบด้วย วิตามินบี วิตามินซี ลูเทียน และเบต้าแคโรทีน  สรรพคุณช่วยต้านมะเร็งและสารต้านอนุมูลอิสระ 

http://www.vigotech.co.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=539853679&Ntype=8

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น