การปลูกเมลอน

 การปลูกเมลอน



1. การเลือกพันธุ์แมลอน — รายละเอียดเชิงปฏิบัติ

  • พิจารณาตลาด — ถ้าขายตลาดท้องถิ่น อาจเลือกพันธุ์ให้ผลใหญ่ ทนขนส่ง (เช่น Net melon แบบทน) แต่ถ้าขายในช่องทางพรีเมียม (ร้านเกษตรอินทรีย์/ส่งออก/ตลาดออนไลน์) ให้พิจารณาพันธุ์ราคาแพง เช่น แมลอนญี่ปุ่นหรือลูกเบอร์สูงที่เนื้อหอมและเก็บรักษานาน

  • เงื่อนไขพื้นที่ — พันธุ์บางชนิดทนร้อน บางชนิดทนน้ำขัง/โรคต่างกัน เลือกให้เข้ากับสภาพดิน/อุณหภูมิของท้องถิ่น

  • ความหวาน & เนื้อ — ค่า Brix เป้าหมาย:

    • พันธุ์เชิงพาณิชย์ทั่วไป: 10–14 Brix

    • พันธุ์พรีเมียม: 14–16+ Brix

  • อัตราการงอกและอัตรารอด — เลือกเมล็ดจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีข้อมูลอัตรางอก ≥80% และไม่มีเชื้อโรคเมล็ด

  • ตัวอย่างตัวแปร: ต้านทานโรคราก/ไวรัส, ระยะสั้น/ยาว (อายุเก็บเกี่ยว 60–85 วัน) — เลือกตามแผนการผลิต (หมุนเวียนเร็วหรือปลูกยาว)

2. การเตรียมเมล็ดและเพาะกล้า — ขั้นตอนปฏิบัติและตัวเลข

  • การคัดเมล็ด — คัดเมล็ดที่สมบูรณ์ แช่น้ำ 10–15 นาที: เมล็ดจมมักสมบูรณ์กว่าเมล็ดลอย

  • การฆ่าเชื้อเมล็ด (ทางเลือก) — แช่ในสารละลายไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3% ผสมน้ำ 1:10 เป็นเวลา 10–20 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด หรือต้ม-แช่น้ำอุ่น 50–55°C 2–4 ชั่วโมง สำหรับเมล็ดที่จะเพาะเชิงใหญ่ (ระวังเมล็ดเสียหายถ้าน้ำร้อนเกินไป)

  • การงอกล่วงหน้า (pre-germination) — ห่อผ้าชุบน้ำ อุณหภูมิห้อง 25–30°C ภายใน 24–48 ชม. จะเห็นรากเล็ก ๆ ก่อนย้ายลงถาด

  • วัสดุเพาะ — ตัวอย่างส่วนผสม: ขุยมะพร้าว 60% + ดินร่วน 20% + ปุ๋ยคอกหมัก 20% หรือใช้ก้อนเพาะ (peat-free) เพื่อสุขภาพรากที่ดี

  • อุณหภูมิในโรงเพาะ — กลางวัน 25–30°C กลางคืน 18–22°C (สำคัญสำหรับการงอกและไม่ให้ต้นยืด)

  • การเร่งราก/ฮอร์โมน — สามารถใช้ฮิวมิค/ฟูลวิค หรือสารกระตุ้นรากในน้ำรดบางครั้ง เช่น 0.5–1 ml/L (ตามคำแนะนำผลิตภัณฑ์)

  • ระยะเพาะก่อนย้าย — อายุ 10–14 วัน หรือมีใบจริง 2–3 ใบ + ระบบรากปิดถาด

3. การเตรียมดินและแปลงปลูก — วิเคราะห์ดินและอัตราแนะนำ

  • ทดสอบดินก่อนปลูก — ตรวจ pH, EC, ปริมาณอินทรียวัตถุ, N-P-K, Ca, Mg, K, P โดยใช้ห้องปฏิบัติการหรือชุดทดสอบแบบเร็ว

  • ปรับ pH — แมลอนชอบ pH 6.0–6.8

    • ถ้าดินเป็นกรด (pH < 6): ใส่ปูนขาว (CaCO3) 100–200 กก./ไร่ ขึ้นกับผลการทดสอบดิน

  • ปรับปรุงโครงสร้าง — ถ้าดินแน่น ให้ใส่ทรายหยาบและปุ๋ยคอกเพื่อเพิ่มการระบายน้ำ (ปุ๋ยคอก 1–2 ตัน/ไร่)

  • การเตรียมแปลง

    • ยกร่องสูง 20–30 ซม. เพื่อระบายน้ำดี

    • คลุมดินด้วยพลาสติก (plastic mulch) ช่วยเก็บความชื้น ควบคุมวัชพืช และเพิ่มอุณหภูมิรากในช่วงเช้า — พลาสติกสีทอง/ดำ-เงิน นิยมใช้ (สีดำด้านบนหากต้องการอุ่น)

  • ปุ๋ยรองพื้น (ตัวอย่างต่อไร่) — ปรับตามการวิเคราะห์ดิน แต่ตัวอย่างทั่วไป:

    • ปุ๋ยคอก 1–2 ตัน/ไร่

    • 15-15-15 ประมาณ 25–50 kg/ไร่ (ปรับตาม N-P-K ที่มีอยู่ในดิน)

    • แคลเซียม (ปูนโดโลไมต์/ปูนขาว) ตามความจำเป็น

4. การปลูกและระยะปลูก — วิธีและเหตุผล

  • ระยะปลูก — 50 × 70 ซม. เป็นระยะมาตรฐาน ให้ระยะเพื่อให้เถาและใบไม่รบกวนกัน แต่สามารถปรับได้ตามระบบ (เช่น ในโรงเรือนอาจปลูกแนวละ 40×60 เพื่อเพิ่มความหนาแน่น)

  • วิธีปลูก — ปลูกตอนเย็นหรือตอนมีเมฆครึ้มเพื่อลดความเครียดจากความร้อน

  • การปักแท่ง/เสา — ถ้าปลูกแบบแนวตั้ง ควรเตรีมโครงสร้างและเชือกพยุงตั้งแต่ต้น เพื่อป้องกันการทำรากเสียหายเมื่อเถาเริ่มยาว

  • การรดน้ำทันที — หลังปลูกให้รดน้ำชุ่มเพื่อช่วยให้ดินแนบรากและลดช็อก

5. การให้น้ำ — ตารางจริงและหลักการ

  • หลักการสำคัญ — แมลอนต้องการน้ำสม่ำเสมอ & ไม่ชอบน้ำขัง ปริมาณน้ำมีผลตรงต่อขนาดและความหวาน

  • ตัวอย่างตารางรดน้ำ (ระบบน้ำหยด)

    • สัปดาห์แรกหลังปลูก: น้ำวันละ 1–2 ครั้ง (เช้า/เย็น) ให้ดินชื้นแต่ไม่เปียกแฉะ

    • ช่วงเติบโตเร็ว (ทรงพุ่ม/ก่อนออกดอก): 1 ครั้ง/วัน หรือ 20–40% evapotranspiration ตามสภาพอากาศ

    • ช่วงติดผล & ขยายผล: ลดเล็กน้อยแต่มั่นคง — ให้เป็นสม่ำเสมอเพื่อป้องกันผลแตก

    • 7–10 วันก่อนเก็บ: ลดปริมาณน้ำลงเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความหวาน (แต่ไม่ให้ต้นขาดน้ำจนเกิดการหยุดการขยายผล)

  • ระบบแนะนำ — น้ำหยด/ฟูมิเคชันสำหรับการควบคุมที่แม่นยำ (ตั้งเวลา/ปั๊มและวาล์ว)

  • การตรวจวัด — ใช้เครื่องวัดความชื้นดิน (tensiometer หรือ soil moisture sensor) ให้เป้าความชื้นในชั้นรากประมาณ 50–70% field capacity ขึ้นกับดิน

6. การใส่ปุ๋ย — ตารางและคำอธิบายธาตุอาหาร

  • แนวคิด — ตอนเริ่มต้นเน้นไนโตรเจน (N) เพื่อเร่งใบและราก — ตอนออกดอก/ติดผลเพิ่มฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) — ช่วงขยายผลให้ K สูงเพื่อหวานและคุณภาพผล

  • สูตรตัวอย่าง (ต่อไร่, ปรับตามการวิเคราะห์ดิน)

    • รองพื้น: ปุ๋ยอินทรีย์ 1–2 ตัน + 15-15-15 50 kg ก่อนปลูก

    • ระยะเจริญเติบโตต้น: 20-20-20 ทางดินหรือทางใบ ทุก 10–14 วัน (ตามคำแนะนำการใช้)

    • ช่วงออกดอก: เพิ่ม 8-24-24 หรือ 12-24-12 (1–2 ครั้งห่างกัน 7–10 วัน)

    • ช่วงขยายผล: 13-13-21 หรือ 8-24-24 แล้วเปลี่ยนเป็นโพแทสเซียมสูง (เช่น 0-0-60 ฯลฯ แบบจำนวนน้อย) 7–14 วันก่อนเก็บ

  • ปุ๋ยทางใบ — ใช้เสริมเมื่อต้นมีอาการขาดธาตุได้รวดเร็ว (เช่น โบรอน 0.2–0.5 g/L ช่วงผสมเกสรช่วยการตั้งเมล็ด)

  • จุลธาตุที่สำคัญ — Ca (แคลเซียม): ป้องกันผลเน่า/แตก; B (โบรอน): ช่วยการผสมเกสร; Mg (แมกนีเซียม): ส่วนประกอบคลอโรฟิลล์; Zn, Mn — ตรวจและเสริมตามอาการ

  • ตัวอย่างการให้ปุ๋ยแบบ Fertigation (น้ำ+ปุ๋ย) — ระดับ N ต่อสัปดาห์ อาจอยู่ราว 5–15 g N/ต้น/สัปดาห์ ขึ้นกับความหนาแน่นของต้นและสูตรปุ๋ย (ต้องคำนวณจากสารละลายปุ๋ยสูตรที่ใช้)

7. การตัดแต่งเถาและเลือกผล — เทคนิคละเอียด

  • การฝึกเถา (Training) — เลือกเถาหลัก 1–2 เถา; ตัดเถาที่เป็นแขนงหรือเถาที่มองว่าอ่อนแอออก เพื่อให้พลังงานไปที่เถาหลักและผล

  • การเลือกผล (fruit pruning) — ปล่อยให้ติด 1 ผลต่อเถาหลักเพื่อคุณภาพสูงสุด (ถ้าต้องการผลขนาดใหญ่และหวาน) — ถ้าต้องการผลหลายลูก/ต้น ให้คำนึงว่าคุณภาพต่อผลจะลดลง

  • การพยุงผล — เมื่อผลหนัก ให้ใช้ตาข่าย/กระสอบเล็ก ๆ พยุงเพื่อลดแรงดึงกรอบผิวและป้องกันผลตก/คอผลหัก

  • การบีบยอด/ตัดยอด — เมื่อเถาไปถึงความยาวที่ต้องการ ให้ตัดยอดเพื่อเน้นการขยายผลแทนการยาวของเถา

8. การผสมเกสร — ปฏิบัติการและการตรวจ

  • ความสำคัญ — แมลอนเป็นพืชที่ต้องการผสมเกสรโดยแมลง (ผึ้ง/แมลงวัน) หรือผสมด้วยมือในโรงเรือน

  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด — เช้าตรู่ 06:00–09:00 น. ดอกตัวผู้จะเปิดและให้เกสร เมื่อทำมือ ให้ใช้พู่กันหรือใช้ดอกตัวผู้ถูเบา ๆ กับดอกตัวเมีย (ตรวจให้แน่ใจว่าดอกตัวเมียมีสัญลักษณ์ของก้านผลเล็ก ๆ อยู่หลังดอก)

  • เทคนิค — ผสมเกสรหลาย ๆ ดอกเพื่อให้แน่ใจว่าอย่างน้อยหนึ่งเกสรติด — ถ้าในโรงเรือนไม่มีแมลง ให้ปล่อยกลุ่มผึ้งผสมเกสร (managed bees) หรือลงมือผสมเองทุกเช้าจนกว่าจะแน่ใจว่าการผสมเป็นปกติ

  • อัตราการผสมสำเร็จ — ตรวจ 3–5 วันหลังผสม: ผลที่เริ่มโตแสดงว่าการผสมติด

9. โรคและแมลงที่พบบ่อย — การวินิจฉัยและการจัดการ (IPM)

  • การสังเกตเชิงป้องกัน — ตรวจแปลงสม่ำเสมอ 2–3 ครั้ง/สัปดาห์ในช่วงอ่อนไหว

  • โรคสำคัญ & การจัดการ

    • โรคราน้ำค้าง (Downy mildew): อาการเป็นจุดเหลือง/สีเทาที่ใบ ใช้วิธีลดความชื้นในแปลง พ่นเชื้อชีวภาพ (เช่น Bacillus subtilis) และเทคนิคหมุนเวียนสารเคมีที่ต่างกลุ่ม (fungicide rotation)

    • โรคเหี่ยวจากเชื้อรา (Fusarium/Vascular wilt): ปลูกบนแปลงที่ไม่เคยมี, ใช้พันธุ์ต้าน, หมุนเวียนพืช, ใช้ไตรโคเดอร์มา และหลีกเลี่ยงน้ำขัง

    • โรคผลเน่า: ควบคุมน้ำรอบผล ไม่ให้เปียกขณะผลโต และเก็บเศษพืชที่เน่าเปื่อยออกจากแปลง

  • แมลงศัตรู & การจัดการ

    • เพลี้ยไฟ/เพลี้ยอ่อน: ใช้ดักจับด้วยเทปเหลือง/น้ำส้มสายชูเจือจาง (กับกากเดือย) และศัตรูธรรมชาติ (เช่น เพลี้ยจักจั่นบางชนิด) หรือสารชีวภัณฑ์

    • หนอนชอนใบ/หนอนหัวดำ: ติดตามด้วยกับดักแสงหรือใช้ Bt (Bacillus thuringiensis) ในช่วงลูกหนอนอ่อน

    • ผึ้งควบคุม: หลีกเลี่ยงการพ่นสารพิษตอนเช้าช่วงที่ดอกบาน ถ้าต้องพ่นให้พ่นตอนค่ำและเลือกสารที่เป็นมิตรกับแมลงผสมเกสร

  • IPM (Integrated Pest Management) — ประกอบด้วย: การตรวจ (scouting), การยอมรับระดับความเสียหาย (economic threshold), การใช้ชีวภัณฑ์, การใช้กับดัก, การหมุนเวียนสารเคมี, การจัดการทางกายภาพ (เช่น คลุมดิน, พรวนดิน), และการใช้พันธุ์ต้านโรค

10. การเก็บเกี่ยว — วิธีสังเกตและการจัดการหลังเก็บ

  • อายุเก็บเกี่ยว — ปกติ 65–80 วันหลังปลูก ขึ้นกับพันธุ์

  • สัญญาณความสุก

    • ผลมีกลิ่นหอมชัดเจน (เฉพาะพันธุ์ที่มีกลิ่น)

    • ผิวร่างแห (ถ้ามี) เริ่มชัดเจนเต็มผล

    • ขั้วเริ่มแยกจากผลเล็กน้อย (ขั้วแห้ง)

    • การทดสอบ: เคาะฟังเสียงจะมีเสียงทึบ/หนา (ต้องใช้ประสบการณ์ร่วมด้วย)

  • วิธีเก็บ — ตัดโดยใช้มีดคม/กรรไกรตัดขั้วทิ้งประมาณ 2–3 ซม. เหลือขั้วสั้น ๆ เพื่อยืดอายุผล

  • การจัดการหลังเก็บ — ทำความสะอาดเบา ๆ (เช็ดดินออก ไม่ควรล้างถ้านำไปเก็บ) และเก็บในที่เย็น (10–15°C) ความชื้น 85–90% เพื่อยืดอายุ หากต้องขนส่งไกล ใช้โฟมหรือห่อให้แต่ละผลไม่กระทบกัน

11. เคล็ดลับเชิงเทคนิค & การแก้ปัญหาเร็ว

  • ถ้าผลแตกรอบขั้ว: มักเกิดจากความผันผวนของความชื้น — ปรับระบบน้ำให้สม่ำเสมอ

  • ถ้ารสจัดแต่ผลจิ๋ว: พลังงานต้นถูกแบ่งไปหลายผล — ลดจำนวนผลต่อเถา/ต่อแปลง

  • ใบเหลืองแถบกลาง: อาจขาด Mg — ให้แมกนีเซียมทางใบ (ตามคำแนะนำผลิตภัณฑ์)

  • อัตราผลผลิตที่คาดได้ (ตัวอย่าง): 10–20 ตัน/ไร่ ขึ้นกับพันธุ์/การจัดการ/ความหนาแน่น (ตัวเลขนี้เป็นค่ากว้างๆ — ต้องปรับตามฟาร์มจริง)


เพิ่มเติม — ตารางสรุปด่วนที่สะดวกพิมพ์/ใช้งาน

(สรุปสั้นๆ ให้ดูเป็น cheat-sheet)

  • pH: 6.0–6.8

  • ระยะปลูก: 50 × 70 ซม. (ปรับได้)

  • อายุเพาะก่อนปลูก: 10–14 วัน

  • ช่วงเก็บเกี่ยว: 65–80 วันหลังปลูก

  • Brix เป้าหมาย: 12–16+ (พันธุ์พรีเมียมสูงกว่า)

  • ปุ๋ยรองพื้น: ปุ๋ยคอก 1–2 ตัน/ไร่ + 15-15-15 (ปรับตามผลทดสอบดิน)

  • ระบบน้ำ: น้ำหยดแนะนำ, ตรวจความชื้นดินเป็นประจำ

  • โรคเด่น: ราน้ำค้าง, เหี่ยว (Fusarium), ผลเน่า

  • แมลงเด่น: เพลี้ยไฟ, หนอน, เพลี้ยอ่อน

pakae

เคยศึกษา Bechelor of science ที่ Rajamangala Institute of Technology Phitsanulok Campus ยังได้ศึกษาในด้าน Horticultural Sciences เคยศึกษา Master of Science ที่ Maejo University Chaingmai ยังได้ศึกษาในด้าน Soil sciences

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า