Molybdenum : โมลิบดินัม



โมลิบดินัม (Mo) เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเอนไซม์ 2 ชนิด คือไนโตรจีเนส (Nitrogenese) ซึ่งสำคัญต่อการตรึงไนโตรเจนจากอากาศ และไนเตรทรีดักเตส  (Nitrate reductase) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรีดิวส์ไนเตรทให้เป็นไนไตรท์ พืชสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ในรูปโมลิบเดตอิออน (MoO42-) ซึ่งอาจได้จากสารแอมโมเนียมโมลิบเดต หรือโซเดียมโมลิบเดต อาการขาดโมลิบดีนัมในมะเขือเทศจะเกิดเนโครซีส (Necrosis) คือพืชจะแสดงอาการแห้งตายและขอบใบหงิกงอ ดอกร่วง ถ้าติดผลจะเล็กแคระแกร็น พืชผักจะแสดงอาการขาดที่ใบแก่ มีจุดด่างแต่เส้นใบยังเขียวอยู่และจะขยายไปเรื่อย ๆ เมื่อมีอาการมาก ๆ ใบจะม้วนเข้าปลายใบจะแห้งตาย 

บทบาทของโมลิบดีนัมมีดังนี้
1. มีบทบาทในการตรึงไนโตรเจน เนื่องจากไนโทรจีเนสเป็นเอนไซม์ที่จำเป็นสำหรับการตรึงไนโตรเจนของ
จุลินทรีย์ ประกอบด้วยโปรตีนที่มีเหล็กเป็นองค์ประกอบอยู่ 2 ชนิด ชนิดแรกคือ Mo-Fe-โปรตีน ส่วนชนิดที่สองเป็นโปรตีน
ที่มีเหล็กเพียงอย่างเดียว
2. เกี่ยวข้องกับการใช้ไนเทรตไอออนที่เซลล์พืชดูดได้ เนื่องจากเอนไซม์ไนเทรต รีดักเทส (nitrate reductase) ซึ่ง
ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยารีดักชันของไนเทรตเป็นไนไทรต์ เป็นเอนไซม์ที่มีเหล็กและโมลิบดีนัมในโครงสร้าง
3. เอนไซม์อื่นๆ ที่ต้องการโมลิบดีนัม ได้แก่ 1) ซานทิน ออกซิเดส/ดีไฮโดรจีเนส ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้
สารประกอบที่ได้จากการตรึงไนโตรเจนในปมรากถั่ว และ 2) และเอนไซม์ซัลไฟต์รีดักเทสในกระบวนการใช้ประโยชน์
กำมะถัน
4. มีบทบาทในการสังเคราะห์โปรตีน ช่วยให้ไรโบโซมประสานกับอาร์เอ้นเอนำรหัส
5. มีบทบาททางใดทางหนึ่งในกระบวนการสังเคราะห์วิตามินซี
6. มีอิทธิพลต่อโครงสร้างของเยื่อ เนื่องจากมีบทบาทในการสังเคราะห์ฟอสโฟลิพิด

7. ช่วยให้เมล็ดพืชมีชีวิต (viability) และแข็งแรง (vigor)

pakae

เคยศึกษา Bechelor of science ที่ Rajamangala Institute of Technology Phitsanulok Campus ยังได้ศึกษาในด้าน Horticultural Sciences เคยศึกษา Master of Science ที่ Maejo University Chaingmai ยังได้ศึกษาในด้าน Soil sciences

1 ความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า